เมษายน 2024

การเลือกใช้รถขนของตามลักษณะของสินค้าเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการจัดการขนส่งเพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้รถขนของดังนี้:

น้ำหนักและขนาดของสินค้า: รถขนของควรมีความจุและพื้นที่โหลดที่เหมาะสมกับน้ำหนักและขนาดของสินค้าที่จะขนส่ง เพื่อให้สามารถขนส่งได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ลักษณะของสินค้า: ถ้าสินค้ามีลักษณะพิเศษ เช่น สินค้าที่ต้องการการปกป้องจากฝุ่น ฝน หรือความชื้น อาจจะต้องใช้รถที่มีตู้ปิด เช่น รถบรรทุกประเภทตู้ ส่วนสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือไม่เป็นแผ่นเรียบ อาจจะใช้รถบรรทุกประเภทแบบเปิด เช่น รถบรรทุกประเภทแบบเทอร์มินอล หรือรถบรรทุกประเภทแบบเทรลเลอร์

ระยะทางและสภาพถนน: การเลือกใช้รถขนของควรพิจารณาถึงระยะทางที่จะขนส่งสินค้าและสภาพถนนที่ผ่าน สำหรับระยะทางยาวๆ และถนนที่ด้อย อาจจะต้องใช้รถที่มีความทนทานและมีความเร็วในการเดินทาง

เวลาที่ต้องการ: การจัดส่งสินค้าในเวลาที่กำหนดก็เป็นสิ่งสำคัญ รถขนของที่มีความเร็วในการเดินทางและมีระบบการจัดการเส้นทางแบบอัตโนมัติ อาจจะช่วยให้สามารถจัดส่งสินค้าได้ตรงเวลา

ความปลอดภัย: การตรวจสอบความปลอดภัยของรถขนของ เช่น การตรวจสอบสภาพเรียบร้อยของรถและการมั่นใจในคุณภาพของรถ จะช่วยให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างปลอดภัย

โดยการพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ร่วมกับความต้องการของลูกค้าและเงื่อนไขพิเศษอื่น ๆ จะช่วยให้สามารถเลือกใช้รถขนของที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งสินค้าได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

รถหกล้อคอก (Flatbed Truck) และรถหกล้อตู้ (Box Truck) มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในลักษณะของตู้หรือพื้นที่ส่งสินค้าที่ใช้ในการขนส่ง และใช้งานในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันดังนี้:

รถหกล้อคอก (Flatbed Truck):
ลักษณะ: มีพื้นที่ที่แบนและเปิดโล่งด้านบนโดยไม่มีตู้ปิด เหมาะสำหรับขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือมีรูปทรงพิเศษที่ไม่สามารถเข้าไปในตู้รถหรือตู้สินค้าได้
การใช้งาน: มักนิยมใช้สำหรับขนส่งวัสดุก่อสร้าง สินค้าที่มีขนาดใหญ่ เช่น เหล็ก เหล็กกล้า ไม้ และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ที่ไม่สามารถแบ่งแยกหรือปรับรูปร่างได้

รถหกล้อตู้ (Box Truck):
ลักษณะ: มีตู้ปิดที่มีการกั้นส่วนโดยตรงของพื้นที่ขนส่ง มักมีประตูด้านหลังสำหรับการเข้าถึงสินค้า และมักมีขนาดที่เล็กกว่ารถหกล้อคอก
การใช้งาน: มักนิยมใช้สำหรับการขนส่งสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยและการป้องกันสินค้าจากสภาพอากาศ สินค้าที่มีความเป็นไปได้ในการเสียหายจากฝนหรือแสงแดด เช่น สินค้าอาหาร ของเสีย หรือสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยและความลับ

ดังนั้น รถหกล้อคอกและรถหกล้อตู้มีความแตกต่างกันในลักษณะของพื้นที่หรือตู้ส่งสินค้าที่ใช้ในการขนส่ง และมีการใช้งานและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันในการใช้งานจริง ลูกค้าควรพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละประเภทของรถตามความต้องการของการขนส่งสินค้าของตนเองและสภาพการใช้งานในทุกครั้งที่ต้องการใช้บริการขนส่งสินค้านี้

ระยะทาง: ค่าบริการจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่จะเดินทาง โดยการคิดค่าบริการในระดับเป็นกลางอาจนำไปสู่การคิดตามระยะทางหรือค่าบริการต่อกิโลเมตร.

ปริมาณของสินค้า: ปริมาณของสินค้าที่ต้องขนย่อมมีผลต่อราคาด้วย เนื่องจากการขนส่งสินค้าในปริมาณมากๆ อาจต้องใช้เวลาและพลังงานมากขึ้น และอาจมีความต้องการในการใช้งานเพิ่มเติม เช่น การเข้าช่วยด้วยแรงงานเพิ่มเติม

ลักษณะของสินค้า: ลักษณะของสินค้าที่จะขนส่ง เช่น น้ำหนัก, ขนาด, ลักษณะของการบรรจุหีบห่อ เป็นต้น อาจมีผลต่อราคาค่าบริการด้วย

เวลาที่ต้องการ: การขนส่งในช่วงเวลาที่ต้องการสามารถมีค่าบริการสูงกว่าการขนส่งในช่วงที่ไม่ซุ่มซ่าม รวมถึงการขนส่งในวันหรือช่วงเวลาที่เป็นช่วงราคาพิเศษ

ค่าบริการเพิ่มเติม: ค่าบริการอื่นๆ เช่น บริการพิเศษ เช่น การใช้งานกระจกข้าง หรือการจอดรถสำหรับรอยรถกระบะ เป็นต้น ย่อมมีผลต่อราคาสุทธิที่ลูกค้าต้องจ่าย

การคำนวณค่าบริการเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีความหลากหลาย แต่การอธิบายและแนะนำให้ลูกค้าเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อค่าบริการจะช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าใจและยอมรับค่าบริการที่ต้องจ่ายได้มากขึ้น และเป็นการลดโอกาสในการเกิดความขัดแย้งหรือไม่พอใจในภายหลัง.